Matt Norman

Matt Norman: ผู้เชี่ยวชาญการสร้างอิทธิพลเชิงบวก

Matt Norman เป็นประธานและ CEO ของ Norman & Associates และเป็นผู้ให้บริการหลักในอเมริกาเหนือสำหรับโปรแกรมการเรียนรู้แบบ cohort-style action learning ของ Dale Carnegie ที่ช่วยให้ผู้คนปรับปรุงวิธีการสื่อสาร การเป็นผู้นำ การสร้างอิทธิพล และการทำงานร่วมกัน

จุดเริ่มต้น: ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาคน

ภูมิหลังและประสบการณ์

Matt Norman มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในการทำงานกับ Dale Carnegie Training ในฐานะผู้พัฒนาและทดสอบโปรแกรมการฝึกอบรม การทดลอง และการปฏิบัติจริงกับผู้เชี่ยวชาญหลายพันคนทั่วโลกในหลากหลายวัฒนธรรมและภาษา ตั้งแต่องค์กรขนาดเล็กไปจนถึงบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่

ประสบการณ์ที่หลากหลาย:

  • ภาคเอกชน: การทำงานกับบริษัทเอกชนทุกขนาด
  • ภาครัฐ: การให้คำปรึกษาและการฝึกอบรมหน่วยงานรัฐ
  • องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร: การพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำในภาคสาธารณะ
  • บรรษัทข้ามชาติ: การทำงานในหลากหลายวัฒนธรรมและภาษา

การก่อตั้ง Norman & Associates

Norman & Associates เป็นบริษัทให้คำปรึกษาและโค้ชแบบกำหนดเฉพาะ (custom coaching and consulting) ที่เชี่ยวชาญใน:

ด้านการให้บริการ:

  • Talent Strategy: กลยุทธ์การจัดการและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
  • Personal Effectiveness: การพัฒนาประสิทธิภาพส่วนบุคคล
  • Planning: การวางแผนเชิงกลยุทธ์และการดำเนินงาน
  • Goal Alignment: การจัดตำแหน่งเป้าหมายระหว่างบุคคลและองค์กร

ปรัชญาและแนวคิดหลัก

การปฏิวัติความคิดเรื่องการสร้างอิทธิพล

Matt Norman เป็นผู้บุกเบิกในการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างอิทธิพล จากการใช้อำนาจและการบีบบังคับ เป็นการสร้างอิทธิพลเชิงบวกที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

หลักการพื้นฐาน:

การเข้าใจธรรมชาติมนุษย์:

  • มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตทางสังคมและอารมณ์
  • การตัดสินใจส่วนใหญ่มาจากความรู้สึก ไม่ใช่เหตุผล
  • ความต้องการการยอมรับและการเป็นส่วนหนึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

การสร้างอิทธิพลแบบใหม่:

  • ไม่ใช้อำนาจ การบีบบังคับ การจัดการ หรือการใช้กำลัง
  • เน้นการสร้างความเชื่อมโยงและความเข้าใจ
  • มุ่งสร้างสถานการณ์ win-win ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

การพัฒนา INFLUENCE Model

Matt Norman พัฒนากรอบการคิด INFLUENCE Model ซึ่งเป็นกระบวนการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการสร้างอิทธิพลเชิงบวก:

องค์ประกอบของ INFLUENCE Model:

I - Interest (ความสนใจ):

  • การแสดงความสนใจที่แท้จริงในผู้อื่น
  • การฟังอย่างตั้งใจและเข้าใจ
  • การให้ความสำคัญกับมุมมองของอีกฝ่าย

N - Needs (ความต้องการ):

  • การระบุและเข้าใจความต้องการที่แท้จริง
  • การเชื่อมโยงประโยชน์ร่วมกัน
  • การหาจุดร่วมที่ทุกฝ่ายต้องการ

F - Feelings (ความรู้สึก):

  • การเข้าใจและตอบสนองต่ออารมณ์
  • การสร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์
  • การจัดการอารมณ์ของตนเองอย่างมืออาชีพ

L - Logic (ตรรกะ):

  • การใช้เหตุผลเป็นเครื่องมือสนับสนุน
  • การนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องและชัดเจน
  • การใช้หลักฐานที่เป็นรูปธรรม

U - Urgency (ความเร่งด่วน):

  • การสร้างความจำเป็นโดยไม่บีบบังคับ
  • การแสดงผลกระทบของการไม่ดำเนินการ
  • การสร้างโอกาสที่มีขีดจำกัด

E - Engagement (การมีส่วนร่วม):

  • การให้โอกาสในการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
  • การรับฟังและนำไปใช้ความคิดเห็น
  • การสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของในผลลัพท์

N - Next Steps (ขั้นตอนต่อไป):

  • การกำหนดขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
  • การแบ่งงานให้เริ่มต้นได้ง่าย
  • การสนับสนุนและติดตามอย่างต่อเนื่อง

C - Commitment (ความมุ่งมั่น):

  • การได้รับคำมั่นสัตย์ที่ชัดเจน
  • การสร้างความรับผิดชอบร่วมกัน
  • การติดตามและประเมินผล

ผลงานและความสำเร็จ

หนังสือ “Lead With Influence”

Matt Norman เป็นผู้เขียนหนังสือ “Lead With Influence: A Proven Process To Lead Without Authority” ที่นำเสนอโดย Dale Carnegie and Associates ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญและนักปฏิบัติทั่วโลก

จุดเด่นของหนังสือ:

  • การทดสอบและพิสูจน์: ใช้ข้อมูลจากการทำงานจริงมากกว่า 10 ปี
  • ความปฏิบัติได้จริง: เน้น mental models และ communication patterns ที่ใช้ได้จริง
  • ความหลากหลาย: ทดสอบในหลากหลายวัฒนธรรม ภาษา และประเภทองค์กร

การรับรองและผลกระทบ:

  • ได้รับการสนับสนุนจาก Dale Carnegie Training อย่างเป็นทางการ
  • ใช้เป็นคู่มือในการฝึกอบรมของ Dale Carnegie ทั่วโลก
  • มีผลกระทบต่อผู้นำและผู้จัดการหลายพันคนทั่วโลก

การทำงานกับ Dale Carnegie Training

ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม:

  • ผู้ให้บริการหลัก: ใน North America สำหรับ Dale Carnegie programs
  • การพัฒนาโปรแกรม: มีส่วนร่วมในการออกแบบและปรับปรุงหลักสูตร
  • การขยายผล: นำโปรแกรมไปใช้ในองค์กรขนาดใหญ่และเล็ก

การวิจัยและพัฒนา:

  • Laboratory Testing: การทดสอบวิธีการใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้
  • Field Testing: การทดลองใช้ในสถานการณ์จริงขององค์กรต่างๆ
  • Cross-Cultural Validation: การตรวจสอบความใช้ได้ในวัฒนธรรมที่แตกต่าง

วิธีการสอนและการพัฒนา

Cohort-Style Action Learning

Matt Norman เป็นผู้เชี่ยวชาญในการดำเนิน cohort-style action learning programs ซึ่งเป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูง:

ลักษณะเด่นของวิธีการ:

  • การเรียนรู้เป็นกลุ่ม: ผู้เรียนทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาจริง
  • การปฏิบัติจริง: ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการลงมือทำจริง
  • การสนับสนุนต่อเนื่อง: มีการติดตามและช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

การโค้ชและการให้คำปรึกษา

แนวทางการโค้ช:

  • Individual Coaching: การพัฒนาเฉพาะบุคคลตามความต้องการ
  • Team Coaching: การพัฒนาทีมและการทำงานร่วมกัน
  • Organizational Consulting: การให้คำปรึกษาระดับองค์กร

หลักการสำคัญ:

  • Customization: ปรับแต่งให้เหมาะกับบริบทเฉพาะ
  • Sustainability: มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
  • Measurable Results: วัดผลได้จริงและชัดเจน

การประยุกต์ใช้ในบริบทสากล

การทำงานข้ามวัฒนธรรม

Matt Norman มีประสบการณ์ในการทำงานกับผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรม และได้พัฒนาวิธีการที่สามารถปรับใช้ได้ในบริบทต่างๆ:

หลักการสากล:

  • เคารพความแตกต่าง: เข้าใจและยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม
  • หาจุดร่วม: มุ่งเน้นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีร่วมกัน
  • ปรับประยุกต์: ดัดแปลงวิธีการให้เหมาะกับบริบทท้องถิ่น

ผลกระทบระดับโลก

องค์กรที่ได้รับประโยชน์:

  • Fortune 500 Companies: บริษัทขนาดใหญ่ระดับโลก
  • Government Agencies: หน่วยงานรัฐในหลายประเทศ
  • Non-Profit Organizations: องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
  • Small and Medium Enterprises: ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก

ปรัชญาการทำงานและชีวิต

แนวคิดหลักในการพัฒนาคน

การเชื่อในศักยภาพมนุษย์:

Matt Norman เชื่อมั่นว่าทุกคนมีศักยภาพในการเป็นผู้นำและสร้างอิทธิพลเชิงบวก หากได้รับการพัฒนาและโอกาสที่เหมาะสม

การมุ่งเน้นผลลัพท์ที่ยั่งยืน:

  • ไม่ใช่การแก้ไขชั่วคราว: มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมระยะยาว
  • การสร้างนิสัย: ช่วยให้ผู้คนพัฒนานิสัยที่ดีในการสื่อสารและเป็นผู้นำ
  • การถ่ายทอดต่อ: สอนให้ผู้เรียนสามารถสอนผู้อื่นต่อไปได้

การสร้างผลกระทบเชิงบวก

หลักการ “Ripple Effect”:

Matt Norman เชื่อว่าการพัฒนาคนหนึ่งคนจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง:

  • ระดับบุคคล: คนที่ได้รับการพัฒนามีความสุขและประสบความสำเร็จมากขึ้น
  • ระดับครอบครัว: ทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้นส่งผลต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว
  • ระดับองค์กร: การทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นส่งผลต่อประสิทธิภาพองค์กร
  • ระดับสังคม: ผู้นำที่ดีส่งผลต่อการพัฒนาสังคมโดยรวม

บทเรียนและคำแนะนำ

สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นผู้นำ

การพัฒนาทักษะพื้นฐาน:

  1. เรียนรู้การฟัง: การฟังอย่างแท้จริงเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด
  2. สร้างความเชื่อมโยง: ลงทุนเวลาในการสร้างความสัมพันธ์
  3. เข้าใจผู้อื่น: พยายามเข้าใจมุมมองและความต้องการของผู้อื่น

การปฏิบัติประจำวัน:

  • ถามคำถามเปิด: เพื่อเรียนรู้และเข้าใจมากขึ้น
  • แสดงความสนใจ: ที่แท้จริงในผู้คนรอบข้าง
  • หาโอกาสช่วยเหลือ: ผู้อื่นโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน

สำหรับผู้บริหารองค์กร

การสร้างวัฒนธรรมองค์กร:

  1. ส่งเสริมการใช้อิทธิพลเชิงบวก: แทนการใช้อำนาจและการบังคับ
  2. สร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้: ที่ผู้คนรู้สึกปลอดภัยในการทดลอง
  3. ยกย่องการร่วมมือ: มากกว่าการแข่งขันภายใน

สำหรับทุกคน

หลักการชีวิต:

  1. อิทธิพลเชิงบวกเป็น superpower: ที่ทุกคนสามารถพัฒนาได้
  2. ความสำเร็จมาจากการช่วยเหลือผู้อื่น: ให้ประสบความสำเร็จ
  3. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: เป็นรากฐานของความสำเร็จในชีวิต

มรดกและผลกระทบที่ยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม

Matt Norman มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงความคิดในอุตสาหกรรมการพัฒนาภาวะผู้นำ:

จากการฝึกอบรมแบบเดิม:

  • เน้นการบรรยายและทฤษฎี
  • ใช้แนวทาง one-size-fits-all
  • วัดผลระยะสั้น

สู่การพัฒนาแบบใหม่:

  • เน้นการปฏิบัติและการประยุกต์ใช้จริง
  • ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะ
  • มุ่งเน้นผลลัพท์ระยะยาว

การสร้างชุมชนผู้นำ

เครือข่ายผู้นำทั่วโลก:

  • Alumni Network: เครือข่ายของผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม
  • Continuous Learning: การเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  • Knowledge Sharing: การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์

บทสรุป

Matt Norman ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การเป็นผู้นำที่แท้จริงไม่ได้มาจากตำแหน่งหรืออำนาจ แต่มาจากความสามารถในการสร้างอิทธิพลเชิงบวกและการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น

แกนหลักของปรัชญา:

“อิทธิพลไม่ได้เกี่ยวกับการทำให้คนอื่นทำในสิ่งที่เราต้องการ แต่เกี่ยวกับการช่วยให้เขาเห็นว่าสิ่งที่เราต้องการจะช่วยให้เขาได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ”

งานของ Matt Norman เป็นแรงบันดาลใจและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในองค์กรและสังคม โดยการใช้อิทธิพลเชิงบวกแทนการใช้อำนาจและการบังคับ

ผลงานของเขาแสดงให้เห็นว่า การเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในศตวรรษที่ 21 ต้องอาศัยทักษะในการสร้างความเชื่อมโยง การเข้าใจผู้อื่น และการสร้างแรงจูงใจที่มาจากภายใน ไม่ใช่การบังคับจากภายนอก

“Leadership is not about being in charge. It’s about taking care of those in your charge.” - หลักการสำคัญที่ Matt Norman นำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่